BACK TO EXPLORE

พลาดไม่ได้! กว่า 30 เมนูซูเปอร์ฟู้ดจากโครงการหลวงที่สยามพารากอน

วัตถุดิบที่ส่งตรงมาเพื่อคุณกับ 14 ร้านดังในสยามพารากอนที่เดียวเท่านั้น

โอกาสดีๆ ในช่วงส่งท้ายปีเป็นของขวัญดีๆ ที่สยามพารากอนอยากชวนคุณมาลองเมนูที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ด้วยการนำวัตถุดิบชั้นดีจากโครงการหลวง รวบรวมสุดยอดซูเปอร์ฟู้ด กินแล้วสุขภาพดีได้แบบไม่ต้องสงสัย เราจะพาคุณมารู้จักกับกว่า 30 เมนูจาก 14 ร้านอาหารชื่อดังในสยามพารากอน ที่คุณจะอิ่มอร่อยกับความสดใหม่จากวัตถุดิบต่างๆ ในโครงการหลวง หรือจะลองซื้อส่วนผสมต่างๆ จากโครงการหลวงกลับไปทำเองที่บ้านก็ได้

Mugendai Steakhouse ชั้น G สยามพารากอน


Shirauo Salad (400 บาท)
ความสดชื่นของจานนี้ต้องยกให้กับวัตถุดิบสดใหม่จากโครงการหลวง ได้แก่ มะเขือเทศเชอร์รี่ ผักกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ที่กรอบเต็มคำ คู่กับไข่กุ้ง ปลาเงินทอดกรอบและน้ำสลัดที่ทำให้จานนี้กินเดี่ยวๆ ก็อร่อย หรือคู่กับจานหลักก็ได้ความกรอบสดของผักอย่างเต็มที่

ส่วนผสม
- กรีนโอ๊ค
- มะเขือเทศเชอร์รี่
- หอมใหญ่สไลด์
- ข้าวโพดหวานต้ม
- สาหร่ายวากาเมะ
- เรดโอ๊ค
- ไข่กุ้ง
- ปลาเงินชุบแป้งทอด
- น้ำสลัดญี่ปุ่น สูตรพิเศษ
- มายองเนส

วิธีทำ
1. เตรียมผักสลัดใส่ชาม ใส่ผักกรีนโอ๊ค และ มะเขือเทศเชอร์รี่ จากโครงการหลวง
2. โรยปลาเงินไซส์กำลังดี ชุบแป้งทอดกรอบ และไข่กุ้ง
3. ราดด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่น สูตรพิเศษ
4. ราดมายองเนส พร้อมเสิร์ฟได้เลย


Another Hound Café ชั้น G สยามพารากอน


Over the Rainbow Spicy Trout Salad (260 บาท)
ปลาเรนโบว์เทราต์เนื้อขาวนุ่มที่ย่างมาได้หนังบางกรอบ แล้วยำใส่มะม่วงสับ กินคู่กับข้าวเกรียบเห็ดหอมที่เพิ่มความอร่อยด้วยโอลีฟดำผ่าครึ่ง เป็น appetizer เรียกน้ำย่อยที่แซ่บมาก



Highlander Herb Salad with Smoked Bresse Chicken (250 บาท)
ไก่เบรสจากโครงการหลวงที่นำมารมควันคลุกกับผักสลัดจากดอยสูง มะเขือเทศเชอร์รี่และยอดหน่อไม้ฝรั่งที่เข้ากับน้ำสลัดมะเขือเทศ กินแล้วได้รสชาติธรรมชาติแท้ๆ แบบมีความสุข



The Majestic Noodle (260 บาท)
อาหารจานเดียวง่ายๆ แต่เบื้องหลังทำอย่างประณีตจากไก่เบรสเนื้อนุ่มโปรตีนสูงของโครงการหลวงที่นำไปตุ๋นในน้ำพะโล้ เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ปรุงรส เนื้อไก่เบรสฉีก มะระสดและน้ำซุปร้อนๆ ที่ทำให้มื้อนี้เราอิ่มท้องแบบมีคุณค่าในทุกดีเทล



Aromatic Kapi Goong Omelette (280 บาท)
เมนูอาหารไทยที่มีส่วนผสมคุ้นตาหลายชนิด เช่น กะปิคั่วขลุกขลิกกับกุ้งสด หมูสับ ได้ความกรอบสดของถั่วแขกและเห็ดรวมจากโครงการหลวง เสิร์ฟพร้อมไข่ข้นและแกงจืดร้อนๆ ซดคล่องคอ



Rainbow Trout Namplawan (390 บาท)
จานนี้ยกให้เป็นไฮไลท์เด็ด ถูกปากถูกใจทุกคนในครอบครัว ปลาเรนโบว์เทราต์ชิ้นใหญ่ เอาไปย่างแล้วเสิร์ฟบนข้าวกล้องผสมควินัวจากโครงการหลวง กินคู่กับซอสน้ำปลาหวาน เพิ่มกลิ่นหอมฟุ้งด้วยผักชีไทยและผักร็อคเก็ตสด

ส่วนผสม
- ปลาเรนโบว์เทร้าต์ย่าง
- ข้าวกล้องควินัว
- ผักร็อคเก็ต
- ผีกชีไทย
- หอมแดงเจียว
- พริกขี้หนูแห้งทอด
- น้ำหวาน

วิธีทำ
1. ปรุงรสปลาเรนโบว์เทร้าต์ด้วยเกลือและพริกไทย โอลีฟออยล์
2. ย่างปลาในกระทะ ด้านละ 2 นาที เมื่อสุกให้พักเอาไว้
3. ตักข้าวกล้องควินัวหุงสุกลงในจาน
4. นำปลาวางบนข้าว
5. เสิร์ฟพร้อมน้ำปลาหวาน ผักแนมใช้ร็อคเก็ต ผักชี หอมแดงเจียว พริกขี้หนูแห้งทอด



Handcrafted Avocado Scoop (120 บาท)
ของหวานที่ถูกใจแฟนๆ โครงการหลวงมานาน และที่ Another Hound Café ก็ทำได้อร่อยเด็ดถูกใจคนรักไอศกรีม ความหอมมันจากอะโวคาโดพันธุ์แฮส ดีต่อสุขภาพรสชาติหวานน้อย โรยหน้าด้วยแมคคาเดเมีย ช่วยรีเฟรชปิดท้ายมื้ออาหารได้ดีมากๆ



The Artisan Coffee Tiramisu (160 บาท)
เครปเค้กทีรามิสุรสละมุนโรยเบาๆ ด้วยกาแฟอาราบิก้าจากโครงการหลวงที่เสิร์ฟกับส้มคัมควอทเชื่อมและคุ้กกี้เลดี้ฟิงเกอร์ บีบมะนาวสดให้รสชาติอมเปรี้ยวเบาๆ


Khao Dessert Bar ชั้น G สยามพารากอน


สังขยาฟักทอง (250 บาท)
ขนมไทยที่เราคุ้นเคย แต่เชฟวิชิตเลือกใช้ฟักทองญี่ปุ่นจากโครงการหลวงที่แต่ละลูกได้ขนาดพอดีไม่ใหญ่มากเกินไป นึ่งที่อุณหภูมิ 87 องศาเซลเซียสให้สังขยาข้างในเหมือน Crème Brulée อร่อนเนียนนุ่มในทุกๆ คำ

ส่วนผสม
- ฟักทองญี่ปุ่นจากโครงการหลวง
- ไข่ไก่
- ไข่เป็ด
- กะทิ
- น้ำตาลปี๊บจากเพชรบุรี
- ใบเตยคั้นน้ำแล้วกรอง

วิธีทำ
1. คว้านไส้และเมล็ดฟักทองออก ล้างน้ำให้สะอาด
2. ตอกไข่ไก่ ไข่เป็ด ผสมกับน้ำตาลปี๊บ ขยำรวมกับใบเตยให้ไข่มีความหอม จากนั้นนำไปกรองให้เนียน
3. หยอดส่วนผสมทั้งหมดลงในกลางลูกฟักทองญี่ปุ่น แล้วนำไปนึ่งที่อุณหภูมิ 87 องศาเซลเซียส ข้างในจะเหมือนกับ Crème Brulée ระวังไฟไม่ให้ร้อนถึงจุดเดือด เพราะจะทำให้ไข่ข้างในเดือดเป็นรู ไม่เนียนสวย
4. ระยะเวลาให้ดูว่าเราใช้ขนาดฟักทองเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยกะเวลาที่ 1 ชั่วโมง ถ้าลูกฟักทองใหญ่อาจจะนานขึ้น วิธีดูว่าข้างในสุกหรือยัง ให้ใช้ไม้จิ้มเข้าไป ถ้าสุกทั้งหมดจะไม่มีน้ำจากไข่ไหลออกมา และยกเสิร์ฟด้วยการผ่าครึ่งและหั่นแบ่งครึ่งอีกครั้ง

 

Chilli Thai ชั้น G สยามพารากอน


ข้าวควินัวอบไก่อินทรีย์ในใบบัว (220 บาท)
ร้านเลือกใช้คอนเซ็ปต์เดียวกับข้าวอบใบบัวแบบดั้งเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้ควินัวแทนข้าวและไก่อินทรีย์จากโครงการหลวง เสิร์ฟมาด้วยการผ่าใบบัวด้านบนเปิดออกให้เห็นเครื่องแน่นๆ รสเข้มๆ ด้านใน

ส่วนผสม
- ควินัว
- น้ำสต็อก
- เห็ดหอม
- เก๋ากี้
- ไก่อินทรีย์จากโครงการหลวง
- กุนเชียง
- ไข่แดงไข่เค็ม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำมันหอย
- เกลือ

วิธีทำ
1. นำควินัวมาล้างน้ำประมาณ 3 ครั้ง ดูว่าน้ำเริ่มใส
2. ปรุงรสเข้าไปในน้ำที่จะหุงข้าวควินัว ใส่น้ำสต็อก เห็ดหอม เก๋ากี้ ไก่อินทรีย์หั่นเป็นลูกเต๋า ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย เกลือและควินัว ใส่ทุกอย่างในหม้อหุงข้าว เพื่อให้รสซึมเข้าไปในควินัวตอนสุกแล้ว
3. หลังจากควินัวสุก ตักควินัวและไก่ลงบนใบบัว จากนั้นใส่ไข่แดงไข่เค็ม กุนเชียง เห็ดหอมและไก่อินทรีย์อีกส่วนหนึ่งที่รวนไว้แล้ว
4. ห่อใบบัวแล้วนึ่งอีก 2 นาที เวลาเสิร์ฟให้ใช้มีดผ่าใบบัวเปิดหน้าให้เห็นควินัวสวยๆ ข้างใน

 

BRIX Dessert Bar ชั้น G สยามพารากอน


Royal Berries Miracle Pancake (280 บาท)
แพนเค้กนุ่มๆ เบาๆ ในสไตล์ของทางร้าน พร้อมกับความเปรี้ยวอมหวานเบอร์รี่ต่างๆ ทั้งสตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่และน้ำผึ้งจากโครงการหลวง เป็นจานที่มีสีสันผสมกัน รู้สึกถึงวิตามินจากผลไม้ซูเปอร์ฟู้ดที่ซ่อนอยู่มากมายภายในจาน

ส่วนผสม
- แพนเค้ก 2 ชิ้น
- สตรอว์เบอร์รี่จากโครงการหลวงหั่น 6-7 ลูกหรือตามชอบ
- ราสป์เบอร์รี่จากโครงการหลวง 10 ลูกหรือตามชอบ
- บลูเบอร์รี่จากโครงการหลวง 10 ลูกหรือตามชอบ
- สตรอว์เบอร์รี่ซอส
- วิปครีม
- ฮันนี่โคม (Honeycomb) ทุบให้เป็นเศษเล็กๆ

วิธีทำ ฮันนี่โคม
1. เคี่ยวน้ำผึ้งจากโครงการหลวงและน้ำตาลให้เป็นคาราเมล แล้วหยดเบคกิ้งโซดาลงไป จากนั้นคนเร็วๆ ตัวเบคกิ้งโซดาจะทำปฏิกิริยาให้ฟูเป็นโฟม
2. เทลงบนถาด อบทิ้งไว้จนกลายเป็นแผ่นแข็ง ทุบให้แตกแล้วใช้ได้เลย

วิธีเสิร์ฟ
1. วางแพนเค้ก 1 ชิ้นลงบนจาน แล้วราดสตรอว์เบอร์รี่ซอสที่ด้านบน
2. ตักวิปครีมที่ตีไว้วางด้านบน แล้ววางราสป์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ครึ่งของที่เตรียมไว้
3. จากนั้นวางแพนเค้กอีกชิ้นแล้วทำแบบเดียวกัน ราดสตรอว์เบอร์รี่ซอส ตักวิปครีม วางราสป์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่และบลูเบอร์รี่
4. ตกแต่งด้วยฮันนี่โคมด้านบน

 

Veganerie ชั้น G สยามพารากอน


Garden Tomato-Quinoa Salad (220 บาท)
สลัดที่เน้นความสดชื่น มีวิตามินซีจากกูสเบอร์รี่ มะเขือเทศและควินัวจากโครงการหลวง และยังหอมสมุนไพรกับใบโหระพาและหอมแดง แกล้มด้วยแตงกวาฉ่ำๆ ราดด้วยน้ำสลัดบัลซามิคที่ดีต่อสุขภาพ

ส่วนผสม
- กูสเบอร์รี่จากโครงการหลวง
- มะเขือเทศจากโครงการหลวง
- ควินัวจากโครงการหลวง
- ใบโหระพา
- หอมแดง
- แตงกวา
- น้ำสลัดบัลซามิค

วิธีทำ
1. หุงควินัวให้สุกและนุ่ม
2. เลือกผักตามปริมาณที่ชอบ จานนี้จะเน้นความสดชื่นจากวิตามินซี หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หอมแดงหั่นเป็นชิ้นบางๆ โรยด้วยใบโหระพา
3. ราดน้ำสลัดบัลซามิคและคลุกให้ทั่ว



Sweet Potato Detox Salad (195 บาท)
สลัดที่ช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษออกจากร่างกาย ได้ผักกาดม่วงจากโครงการหลวง บร็อกโคลี่ มันหวาน กินเข้าไปหนึ่งคำจะรู้สึกได้ถึงหลายๆ เท็กซ์เจอร์ รสชาติความอร่อยจากธรรมชาติจริงๆ



Tropical Goodness Bowl (220 บาท)
ถ้วยนี้เป็นอาหารเช้าอิ่มยาวทั้งวันหรือของหวานสุดเฮลธ์ตี้ประจำตัวของคุณได้เลย มีทั้งกราโนล่าอบกรอบ ช่วยในการย่อยกินคู่กับเชีย พุดดิ้งที่นำไปแช่ด้วยน้ำนมถั่วเหลืองเพิ่มโปรตีน สบายท้อง


Wang Jia Sha ชั้น G สยามพารากอน


ไก่ดำตุ๋นยาจีนดอกถั่งเช่า (990 บาท)
น้ำซุปที่ใช้เวลาในการตุ๋นไก่ดำจากโครงการหลวงนาน 3-5 ชั่วโมงจนเนื้อนุ่มมากๆ ดึงความหอมและคุณค่าออกมาจากเครื่องปรุงยาจีนที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ได้ความหวานธรรมชาติจากลำไยแห้ง เป็นซุปที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น สั่งมาแล้วกินได้ทั้งครอบครัว

ส่วนผสม
- ไก่ดำจากโครงการหลวง 1 ตัว
- เครื่องปรุงยาจีน (ตังกุย, บ๋วยซัว, เจ๊กเต๊ก, ตังเซียง, ถั่งเช่า, ลำไยแห้ง)
- น้ำสต็อก

วิธีทำ
1. ตุ๋นไก่ดำกับน้ำสต็อกพร้อมกับเครื่องปรุงยาจีนไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อน 3-5 ชั่วโมง
2. ลองชิมน้ำซุป ปรุงรสเพิ่มตามต้องการ

 

Townhouse ชั้น G สยามพารากอน


Strawberry Pavlova (220 บาท)
ขนมฝรั่งเศสดั้งเดิมที่จะทำในช่วงเดือนธันวาคม จานจะมีทั้งเมอร์แรงก์ที่ทำออกมาเป็นทรงสวยมากๆ เหมือนกับมงกฎ กินคู่กับสตรอว์เบอร์รี่จากโครงการหลวงที่คลุกด้วยน้ำส้มสายชูบัลซามิค เวลากินเคาะเบาๆ ให้เมอร์แรงก์แตก แล้วตักคู่กับสตรอว์เบอร์รี่ด้านล่างได้ สนุกดี

ส่วนผสม
- สตรอว์เบอร์รี่จากโครงการหลวง
- ไข่ขาว
- น้ำตาล
- น้ำส้มสายชูบัลซามิค
- คุ้กกี้ครัมเบิล
- เค้กอบกรอบสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
1. หั่นสตรอว์เบอร์รี่จากโครงการหลวงเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ นำมาผสมเคล้ากับน้ำส้มสายชูบัลซามิค
2. นำสตรอว์เบอร์รี่ที่คลุกกับน้ำส้มสายชูบัลซามิคมาวางไว้ตรงกลางจาน โรยคุ้กกี้ครัมเบิลที่ด้านบน
3. นำเมอร์แรงก์ที่ทำจากไข่ขาว 100 กรัมกับน้ำตาล 150 กรัม ตีให้เข้ากันแล้วนำไปอบ พอได้ทรงเมอร์แรงที่ต้องการ ก็ครอบทับสตรอว์เบอร์รี่ที่จัดจานไว้
4. โรยด้วยเค้กอบแห้งไปเบาๆ ให้สีสันสวยงาม



Persimmon in Glass (190 บาท)
ขนมถ้วยนี้มีที่ร้านนี้ที่เดียวในโลก เชฟสร้างสรรค์ด้วยการนำสาคูไปต้มกับน้ำมะพร้าวและกะทิ ใส่ลูกพลับสดกับลูกพลับที่นำไปผัดกับเหล้า ตกแต่งคู่กับสาคูทอด โรยด้วยคุ้กกี้ครัมเบิลและสปอนจ์เค้กกลิ่นใบเตย


แสนแซ่บ ชั้น 4 สยามพารากอน


ข้าวผัดข้าวกล้องงอกไตรทิพย์ น้ำพริกปลาร้า ปลาส้ม (230 บาท)
เมนูแบบไทยๆ ที่มีเครื่องเคียงเป็นผักและสมุนไพรให้เลือกมากมาย โดยมีพระเอกเป็นข้าวกล้องงอกไตรทิพย์จากโครงการหลวง คลุกเคล้ากับน้ำพริกปลาร้า รสชาติจัดจ้านแต่ลงตัว เสิร์ฟพร้อมปลาส้มทอด หอมมันอร่อย

ส่วนผสม
- ข้าวกล้องงอกไตรทิพย์จากโครงการหลวง
- ปลาส้ม
- น้ำพริกปลาร้า
- น้ำมันพืช
- หอมแดงซอย
- ผักชี
- หอมเจียว
- กระเทียมสับ
- ต้นหอมซอย
- พริกจินดาแดง
- ตะไคร้สับ
- พริกแห้ง
- มะนาว

วิธีทำ
1. นำปลาส้มชุบแป้งผสมไข่ ทอดจนเหลือง
2. ตักพักไว้ก่อน
3. นำกระเทียมสับ ตะไคร้สับ คั่วในน้ำมันให้พอสุก
4. ใส่น้ำพริกปลาร้า ผัดให้หอม
5. นำข้าวกล้องหุงแล้วลงไปคลุก (ไม่ต้องปรุงรส เพราะน้ำพริกปลาร้ามีรสชาติจัดอยู่แล้ว)
6. ตักข้าวใส่จาน
7. โรยเครื่องปรุงที่เหลือ
8. นำปลาส้มที่ทอดแล้ววางบนข้าว
9. โรยหอมเจียว และบีบมะนาว


Bombyx by Jim Thompson ชั้น M สยามพารากอน


แกงเขียวหวานไก่บ้านบัตเตอร์นัท (280 บาท)
แกงเขียวหวานกับเครื่องแกงและรสชาติที่เข้มข้น มีรสชาติดั้งเดิมแบบไทยๆ ใช้ไก่บ้านที่เคี่ยวมาจนเนื้อนุ่ม และบัตเตอร์นัทจากโครงการหลวงที่มาใช้แทนมะเขือได้อย่างลงตัว เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ส่วนผสม
- ไก่บ้าน
- บัตเตอร์นัทจากโครงการหลวง
- พริกแกงเขียวหวาน
- หัวกะทิสด
- หางกะทิ
- น้ำตาลปี๊บ
- ใบมะกรูดฉีก
- ใบโหระพา
- พริกชี้ฟ้าแดง
- น้ำปลา

วิธีทำ
1. ใช้ไก่บ้านขนาดประมาณ 1.2-2 กก.
2. นำไก่เลาะกระดูกออก นำไปเคี่ยวกับหางกะทิ+สับปะรด 1-2 ชิ้น เพื่อช่วยทำให้เปื่อย
3. ใส่มะกรูดและใบมะกรูดเพื่อดับกลิ่น
4. เคี่ยวนานประมาณ 2 ชม.
5. เมื่อเคี่ยวไปซักพัก และกะทิเริ่มงวดลง เติมน้ำนิดหน่อย และเคี่ยวจนเนื้อไก่เปื่อย แต่ไม่เปื่อยจนเนื้อร่วง
6. นำสับปะรด ตะไคร้ และใบมะกรูดออก
7. นำไก่พักแช่ในน้ำกะทิสักพัก
8. นำเครื่องแกงผัดกับหัวกะทิทีละนิด ใส่สลับกับหางกะทิ จนแตกมัน
9. เมื่อผัดเครื่องแกงจนแตกมันแล้ว ใส่น้ำกะทิที่เหลือให้หมด
10. ปรุงรสโดยใส่น้ำตาลปี๊บ และชิมรสก่อนใส่น้ำปลาตามเหมาะสม เพราะเครื่องแกงจะมีความเค็มอยู่แล้ว
11. เมื่อกะทิเดือด ให้ยกลง อย่าให้แตกมันมาก
12. นำกะทิที่ผัดเครื่องแกงแล้ว วางพักไว้
13. นำบัตเตอร์นัทหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดประมาณ 1 นิ้วครึ่ง
14. ต้มบัตเตอร์นัทให้พอนิ่ม ประมาณ 10 นาที
15. ใส่หางกะทิในบัตเตอร์นัทเล็กน้อย และต้มต่อจนสุก
16. นำบัตเตอร์นัทมาใส่รวมกับน้ำแกงและไก่
17. ตั้งเตาจนเดือด
18. โรยใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า
19. ยกออกจากเตา
20. ก่อนนำเสิร์ฟ ใส่หัวกะทิเล็กน้อยบนแกง



กุ้งผัดบัตเตอร์นัท (280 บาท)
กับข้าวแบบไทยง่ายๆ กับบัตเตอร์นัทจากโครงการหลวงที่นำมาผัดกับกุ้งเป็นจานที่อบอุ่นเหมือนคุณแม่เข้าครัวมาทำให้กิน ด้วยความใส่ใจของวัตถุดิบในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดทุกอย่างในจานนี้



ไอศกรีมบัตเตอร์นัท (150 บาท)
มื้อนี้จะฟินได้ทันที เมื่อปิดท้ายด้วยไอศกรีมบัตเตอร์นัทที่หลายคนคงไม่เคยลองมาก่อน เพราะไอศกรีมเนื้อเนียนที่เข้ากับบัตเตอร์นัทซึ่งผสมอยู่ในรสชาติที่ไม่หวานมากเกินไป แต่หอมอย่างมีเอกลักษณ์


Pot Ministry ชั้น 4 สยามพารากอน


ปลาสเตอร์เจียนนึ่งซีอิ๊ว (320 บาท)
กลิ่นหอมของปลาสเตอร์เจียนจากโครงการหลวง เมื่อนำมานึ่งซีอิ๊วทำให้เนื้อปลาชุ่มซอสและนุ่มยิ่งขึ้น เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยน้ำซอสซีอิ๊วอีกนิด รสชาติกลมกล่อม รู้สึกได้ถึงความสดของวัตถุดิบทุกอย่างในจาน

ส่วนผสม
- ปลาสเตอร์เจียนรมควันจากโครงการหลวง
- พริกชี้ฟ้าแดงซอย
- ขิงซอย
- ต้นหอม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาล
- ซอสคิคุแมน
- น้ำเปล่า

วิธีทำ
1. นำปลามานึ่ง ให้สุกอีกนิด ประมาณ 5 นาที
2. นำเห็ดหอมมานึ่งให้สุก
3. ทำซอส ผสมน้ำตาล ซีอิ๊วขาว ซอสคิคุแมนและน้ำเปล่า ตั้งไฟคนให้ละลายเข้ากัน
4. วางปลาและเห็ดบนจาน ราดน้ำซอส โรยด้วยขิงและพริกชี้ฟ้า

 

Signor Sassi ชั้น G สยามพารากอน


Risotto Pumpkin (950 บาท)
ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรคุณภาพดีเยี่ยมทั้งข้าวริซอตโต้ ฟักทองคุณภาพดีจากโครงการหลวง น้ำมันทรัฟเฟิล ชีสพาร์เมซาน สร้างสรรค์ออกมาเป็นเมนูริซอตโต้ฟักทองแสนอร่อยเข้มข้นด้วยรสชาติแบบดั้งเดิม

ส่วนผสม
- ฟักทองจากโครงการหลวง
- ริซอตโต้
- หอมใหญ่สับ
- น้ำแซฟรอน (saffron)
- น้ำมันทรัฟเฟิล
- ชีสพาร์เมซาน
- พริกหยวกแดง
- เนย
- น้ำมันมะกอก
- น้ำซุปสต็อก
- ใบเสจ (sage)
- เกลือ
- พริกไทย

วิธีทำ
1. ตัดฟักทอง และนำไส้ข้างในออก
2. นำเนื้อฟักทองมาสับให้ละเอียด แบ่งเนื้อฟักทองออกเป็น 2 ส่วน
3. นำลูกฟักทองที่คว้านแล้วไปทอดในน้ำมันให้สุกที่ไฟกลางประมาณ 5 นาที
   ซอสฟักทอง
   - นำฟักทอง 1 ส่วน ไปต้มกับใบเสจ
   - หลังจากนั้น นำไปปั่นจนเป็นซอสฟักทอง
4. นำน้ำมันมะกอกใส่กระทะ ตั้งไฟแรง ใส่หอมใหญ่ และเนื้อฟักทอง 1 ส่วน ผัดจนสุก
5. ใส่พริกหยวกแดงสับ
6. ใส่ข้าวริซอตโต้
7. ผัดให้เข้ากัน
8. ใส่ซอสฟักทอง
9. เติมน้ำซุปสต็อกแล้วผัดทุกอย่างด้วยไฟแรง
10. เมื่อสุกแล้วให้หรี่ไฟ เติมน้ำแซฟรอน
11. ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ใส่ชีสพาร์เมซาน
12. ใส่เนย คนให้เข้ากัน
13. ใส่น้ำมันทรัฟเฟิล และปิดไฟทันที
14. นำไปใส่ในลูกฟักทอง
15. ฝานเห็ดทรัฟเฟิลบางๆ โรยหน้า



Passion Fruit Mojito (160 บาท)
เครื่องดื่มที่ปลุกความสดชื่นขึ้นมากด้วยเสาวรสจากโครงการหลวงที่หวานอมเปรี้ยว ผสมผสานไปกับเลมอน มะนาว ความซ่าจากโซดา ทำให้ดื่มแล้วรู้สึกตื่นไปได้นานๆ

 

Harrods Tea Room ชั้น G สยามพารากอน


ไก่อบซอสเห็ดพอร์ตโทเบลโล (470 บาท)
ไก่อบเนื้อนุ่มในซอสสูตรพิเศษของร้าน ได้ความหอมของเห็ดพอร์ตโทเบลโลจากโครงการหลวง ทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น กินคู่กับผักเครื่องเคียงแล้วรู้สึกอบอุ่น เข้ากับช่วงปลายปีอย่างนี้มากๆ เลย

ส่วนผสม
- สะโพกไก่
- สมุนไพรโรสแมรี่
- น้ำสต็อกไก่
- เห็ดพอร์ตโทเบลโลจากโครงการหลวง
- เนยชั้นดี
- บร็อกโคลี่
- เบบี้แครอท
- มะเขือเทศเถา
- มันฝรั่ง

วิธีทำ
1. นำสะโพกไก่หมักกับสมุนไพรโรสแมรี่
2. นำไก่ไปย่างบนกระทะ ตั้งเตาไฟปานกลาง
3. เมื่อย่างสุกเล็กน้อย นำไปอบในเตาอบต่อจนนุ่ม
4. นำเห็ดย่างบนเตาให้สุกเล็กน้อยก่อนนำไปผัดกับเนย
5. นำซอสที่หมักไก่ตั้งเตาผสมกับน้ำสต็อกไก่ หลังจากนั้นใส่เห็ดที่ย่างแล้วลงในซอส
6. ปรุงรสชาติด้วยเกลือและพริกไทย
7. นำซอสราดบนไก่
8. นำผักประกอบ มันฝรั่งและบร็อกโคลี่ เบบี้แครอท และมะเขือเทศเถา ลวกน้ำ และผัดกับเนยให้สุก
9. วางผักเสิร์ฟพร้อมไก่และซอส



ปลาเรนโบว์เทราต์ควินัวสลัด (470 บาท)
ผักสลัดหลายชนิดที่ให้ทั้งสีสันและรสเฉพาะตัว ด้านบนมีปลาเรนโบว์เทราต์ชิ้นใหญ่กินคู่กัน เหมาะกับคนที่ดูแลสุขภาพ เป็นจานที่กินแล้วรู้สึกดีได้ตลอดทั้งวัน

 

บ้านไอซ์ ชั้น 4 สยามพารากอน


ไก่ดำต้มขมิ้น (290 บาท)
อาหารใต้รสจัดจ้านที่ใช้ไก่ดำจากโครงการหลวงมาต้มกับเครื่องสมุนไพรที่นำโดยขมิ้น ให้น้ำซุปมีสีเหลืองสวยตัดกับไก่ดำนุ่มๆ ชิ้นใหญ่ รสชาติจัดจ้าน กินคู่กับข้าวสวยแล้วรู้สึกถึงความเป็นไทยได้อย่างถึงใจ