BACK TO EXPLORE

กาแฟ จิตวิญญาณ และแพสชั่น คุยกับผู้อยู่เบื้องหลังกาแฟสัญชาติญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม

เอสเพรสโซ่เพียงหนึ่งช็อตที่่ดื่มที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี คือจุดเริ่มต้นของการสร้างร้านกาแฟ OMOTESANDO KOFFEE

จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายกาแฟของใครบางคนอาจเริ่มต้นจากกาแฟแก้วเดียว แก้วที่พิเศษที่ทำให้คุณยังคงมีความสุขกับการตามหาร้านกาแฟที่ชอบ แต่สำหรับคุณเออิจิ คุนิโตโมแล้ว เอสเพรสโซ่เพียงหนึ่งช็อตที่่ได้ดื่มที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี คือจุดเริ่มต้นของการสร้างร้านกาแฟ OMOTESANDO KOFFEE ร้านกาแฟที่โด่งดังที่สุดร้านหนึ่งขึ้นมา



“เนเปิลส์ คือเมืองแรกที่ทำให้ผมอยากที่จะเรียนรู้เรื่องกาแฟ”

หากสังเกตแก้วกระดาษที่ร้านใช้ จะเห็นชื่อเมืองต่างๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับประสบการณ์และแพสชั่นส่วนตัวของคุณเออิจิ หลังจากแก้วแรกได้ปลุกแรงบันดาลใจที่จะทำร้านกาแฟขึ้นมา คุณเออิจิก็เปิดร้านกาแฟร้านแรกที่เมืองโอซาก้าในปี 2003 เป็นคาเฟ่ที่เสิร์ฟกาแฟสไตล์อิตาเลียน ซึ่งเป็นพื้นฐานของเมนูกาแฟเอสเพรสโซ่เบสในทุกวันนี้ ก่อนที่จะย้ายมาเปิดร้าน OMOTESANDO KOFFEE ปี 2011 ใจกลางโตเกียวด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้เทรนด์กาแฟเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง และแม้จะตั้งใจเปิดเป็น pop-up shop เพียงชั่วคราวแต่ความนิยมที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายก็ทำให้ OMOTESANDO KOFFEE แห่งแรกเปิดมานานถึง 4 ปี



“ลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ลูกค้าได้โฟกัสกับการดื่มด่ำรสกาแฟ”

ต้นแบบของ OMOTESANDO KOFFEE ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์คือ การที่บาริสต้าส่งต่อกาแฟที่ดีถึงมือลูกค้าด้วยแนวคิดแบบเดียวกับพิธีกรรมชงชาญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนผสมของปรัชญาแบบเซน คือให้ความสำคัญกับช่วงเวลาระหว่างบาริสต้าและลูกค้าได้แบ่งปันความรื่นรมย์ของการดื่มกาแฟด้วยกัน และนั่นก็เป็นที่มาของสัญลักษณ์รูปกรอบสี่เหลี่ยมทั้งที่โลโก้แบรนด์ หรือรูปแบบของเคาน์เตอร์และการตกแต่งร้านสุดแสนจะเรียบง่าย ด้วยความหมายอันเป็นแกนหลักหนึ่งของปรัชญาเซน ก็คือสุนทรีย์แห่งความว่าง



“นำเสนอกาแฟคุณภาพและการบริการด้วยใจ”

กาแฟของ OMOTESANDO KOFFEE ยังคงเป็นกาแฟสไตล์อิตาเลียน โดยเน้นคุณภาพของกาแฟเป็นสิ่งสำคัญสุดตั้งแต่การเลือกใช้ green bean จากแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพในหลายๆ ประเทศ การค้นหาโรงคั่วที่น่าเชื่อถือ และการออกแบบเบลนด์ที่เหมาะสมกับการนำมาชงเสิร์ฟให้ลูกค้าในร้าน คุณเออิจิมีความคิดว่า หน้าที่ของบาริสต้าคือเสาะหาโรงคั่วที่ดีและเหมาะสมกับกาแฟที่จะนำมาเสิร์ฟลูกค้าที่มีความชอบกาแฟที่หลากหลาย ขณะที่ roaster ก็มีหน้าที่ไปหาเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดมานำเสนอ โดยร้านเลือกใช้ Ogawa Coffee Roaster หนึ่งในโรงคั่วกาแฟที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นจากเมืองเกียวโต สำหรับกาแฟ 2 เบลนด์ที่ใช้ในช่วงแรกของการเปิดที่สยามพารากอน  ก่อนจะเพิ่มเบลนด์ใหม่ๆ เมล็ดกาแฟที่น่าสนใจ รวมถึงขนม koffee kashi ที่เป็นตัวเด่นของร้านเข้ามาหลังจากนี้ด้วย



“Coffee Culture ของกรุงเทพฯ ตอนนี้น่าตื่นเต้นมาก”

นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อมีโอกาส คุณเออิจิและหุ้นส่วน Russell Stradmoor ไม่รีรอที่จะมาเปิดสาขาทันที แม้ว่ากรุงเทพฯ จะไม่ได้อยู่ในแผนขยายสาขาตั้งแต่แรก คุณเออิจิบอกว่าชอบกรุงเทพฯ ชอบผู้คนที่นี่ เป็นเมืองที่น่าอยู่ และเทรนด์กาแฟกำลังน่าสนใจสุดๆ มีร้านกาแฟดีๆ เปิดมากมาย บาริสต้าก็พยายาม challenge ตัวเองด้วยการทำอะไรที่แปลกใหม่ รวมถึงลูกค้าคนดื่มกาแฟที่มีความเข้าใจเรื่องกาแฟมากขึ้น ทุกครั้งที่มากรุงเทพฯ ก็จะได้เจออะไรใหม่ๆ เสมอ



วันนี้คอกาแฟสามารถแวะมาดื่มด่ำรสชาติกาแฟที่ใส่แพสชั่นและความใส่ใจจากร้าน OMOTESANDO KOFFEE ได้แล้วที่ชั้น 3 ฝั่งนอร์ท สยามพารากอน