BACK TO EXPLORE

งานแถลงข่าวนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราช

มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ร่วมกับสยามพิวรรธน์ และสยามพารากอน จัดนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และบริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดร่วมกันจัดงานนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวบรวมพระราชประวัติตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์เมื่อครั้งประทับอยู่ ณ วังสระปทุมซึ่งเป็นสถานที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย รวมถึงพระราชจริยาวัตร และพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติ ทั้งยังเป็นการเผยแผ่เรื่องราวอันทรงคุณค่าโดยถ่ายทอดผ่านการจำลองบรรยากาศวังสระปทุมมาไว้ ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น ๒ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้ประชาชนได้ร่วมกันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕-๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ โดยจัดงานแถลงข่าวขึ้นในวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๓๐น. ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน

บรรยากาศภายในงานแถลงข่าว จำลองส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” โดยได้รับเกียรติจาก คุณชวลี อมาตยกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและวัตถุประสงค์การจัดนิทรรศการครั้งนี้

คุณชวลี อมาตยกุลกรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กล่าวว่า “สืบเนื่องจากวังสระปทุมจะจัดให้ประชาชนทั่วไปได้ชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้นำเรื่องราวที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์มาจัดแสดงนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราชขึ้น ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบเรื่องราวอันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์ไทยได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ด้วยพระวิริยะอุตสาหะและพระราชจริยาวัตรของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีทศพิธราชธรรม เป็นแบบอย่างที่ประเสริฐแห่งการดำรงชีวิตที่ดีงามตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ รวมถึงพระราชประวัติตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ และประทับอยู่ที่พระตำหนักใหม่วังสระปทุมซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชดังที่พระองค์รับสั่งไว้ว่า ทรงรู้จักประเทศไทยได้เพราะสมเด็จย่าของพระองค์ นอกจากวังสระปทุมจะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าแล้ว ยังเป็นสถานที่แห่งแรกที่เสด็จอยู่ในประเทศไทยหลังจากที่เสด็จพระราชสมภพที่สหรัฐอเมริการะหว่างปีพ.ศ.๒๔๗๑-๒๔๗๖ อีกด้วย”

คุณชวลี กล่าวต่อว่า “หลังจากจบงานนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราชแล้ว หากประชาชนผู้สนใจต้องการซึมซับกับเรื่องราวและสถานที่จริงยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าได้ระหว่างวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๙ จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ สำหรับประชาชนทั่วไปเสียค่าเข้าชมท่านละ ๑๕๐ บาท และนักเรียน/นักศึกษาเสียค่าเข้าชมท่านละ ๕๐ บาท”

นิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” เป็นนิทรรศการที่ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช โดยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เสด็จครองสิริราชสมบัติยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และยืนนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดของนานาประเทศ นับแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๙จนถึง พ.ศ.๒๕๕๙รวมระยะเวลายาวนานถึง ๗๐ ปี ซึ่งภายในงานนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น ๔ ภาค ได้แก่ปฐมนิวาสราชสถิต ภาคแห่งการแสดงพระราชประวัติ พระราชจริยาวัตร เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องด้วยวังสระปทุมซึ่งเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทยพิพิธราชกรณีย์ เป็นภาคที่ประกอบด้วยเรื่องการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการที่ยังประโยชน์แก่ประเทศและปวงชนชาวไทยตลอดจนมนุษยชาติ ราชสดุดีสรรพสกล ภาคแห่งสาระเกี่ยวกับการถวายราชสดุดีและมหาภูมิพลปรมานุสาสน์ ภาคแห่งการประมวลพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่พสกนิกร

ภายในงานนิทรรศการยังจะได้ชมการจำลองภาพโฮโลแกรม ๓ มิติของรถเข็นที่ทรงเล่นเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ รวมถึงรางวัลที่ทรงได้รับการถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณพระเกียรติยศ ให้ได้ชมราวกับภาพเสมือนจริง นอกจากนั้นมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าจะมีการแจกโปสการ์ดพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาชมยากให้แก่ผู้มาร่วมชมนิทรรศการทุกวันวันละ ๙,๙๙๙ ภาพอีกด้วย

ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และดื่มด่ำกับเรื่องราวอันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์ชาติไทยในงานนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” ได้ระหว่างวันที่ ๕-๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น ๒ ศูนย์การค้าสยามพารากอน